ถังดับเพลิงมีกี่ชนิด? เจาะลึกทุกประเภท พร้อมวิธีเลือกใช้ให้ตรงจุดและปลอดภัย

98 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ถังดับเพลิงมีกี่ชนิด? เจาะลึกทุกประเภท พร้อมวิธีเลือกใช้ให้ตรงจุดและปลอดภัย

ถังดับเพลิงมีกี่ชนิด? เจาะลึกทุกประเภท พร้อมวิธีเลือกใช้ให้ตรงจุดและปลอดภัย

    การเลือกถังดับเพลิงให้เหมาะสมกับสถานที่และประเภทของไฟสำคัญมาก ไม่เพียงช่วยควบคุมเพลิงไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังลดความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินได้อีกด้วย บทความนี้เจาะลึกทุกประเภทของถังดับเพลิง ตั้งแต่ชนิดของสารดับเพลิง วิธีการใช้งาน และการบำรุงรักษา เพื่อช่วยให้คุณพร้อมรับมือเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อย่างมั่นใจ

 

 

ประเภทของถังดับเพลิง แบ่งตามสารดับเพลิง (Types of Fire Extinguishers)

    ถังดับเพลิงมีหลายประเภท โดยแบ่งตามชนิดของสารดับเพลิงได้ดังนี้:

ถังดับเพลิงชนิดน้ำ (Water Fire Extinguisher)

  • ลักษณะ: บรรจุน้ำเปล่าหรือน้ำผสมสารเคมี มักมีสีแดงและฉลากระบุประเภท A
  • เหมาะสำหรับ: ไฟเชื้อเพลิงธรรมดา เช่น ไม้ กระดาษ ผ้า
  • ข้อควรระวัง: ห้ามใช้กับไฟฟ้า ไฟน้ำมัน และไฟสารเคมีบางชนิด เพราะอาจทำให้ไฟลุกลาม

 ถังดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้ง (Dry Chemical Powder Fire Extinguisher - DCP)

  • ลักษณะ: บรรจุผงเคมีแห้ง เช่น โมโนแอมโมเนียมฟอสเฟต หรือโซเดียมไบคาร์บอเนต
  • เหมาะสำหรับ: ไฟประเภท A, B และ C เช่น ไฟเชื้อเพลิง น้ำมัน ก๊าซ และไฟฟ้าแรงดันต่ำ
  • ข้อควรระวัง: ผงเคมีอาจทำลายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และระคายเคืองระบบหายใจ

ถังดับเพลิงชนิดโฟม (Foam Fire Extinguisher)

  • ลักษณะ: บรรจุสารสร้างฟองโฟมปกคลุมเชื้อเพลิง
  • เหมาะสำหรับ: ไฟประเภท A และ B โดยเฉพาะน้ำมันและของเหลวไวไฟ
  • ข้อควรระวัง: ไม่เหมาะกับไฟฟ้าแรงสูงและโลหะติดไฟ

ถังดับเพลิงชนิดคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 Fire Extinguisher)

  • ลักษณะ: บรรจุก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มักมีสีดำและหัวฉีดทรงกรวย
  • เหมาะสำหรับ: ไฟประเภท B และ C รวมถึงไฟอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพราะไม่ทิ้งสารตกค้าง
  • ข้อควรระวัง: ไม่เหมาะกับไฟประเภท A และต้องระวังก๊าซ CO2 อาจทำให้เกิด frostbite

ถังดับเพลิงชนิดสารสะอาด (Clean Agent Fire Extinguisher)

  • ลักษณะ: บรรจุสารเคมีไม่นำไฟฟ้าและไม่ทิ้งสารตกค้าง เหมาะกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
  • เหมาะสำหรับ: ไฟประเภท A, B และ C
  • ข้อควรระวัง: มีราคาสูง และควรเลือกชนิดที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

ถังดับเพลิงชนิด Wet Chemical

  • ลักษณะ: บรรจุสารเคมีเหลว ออกแบบเพื่อดับไฟจากไขมันและน้ำมัน
  • เหมาะสำหรับ: ไฟประเภท K ในห้องครัว
  • ข้อควรระวัง: ไม่ควรใช้กับไฟประเภทอื่น

 

การเลือกถังดับเพลิงที่เหมาะสม (Choosing the Right Fire Extinguisher)
    การเลือกถังดับเพลิงที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันอุบัติเหตุจากไฟไหม้ เนื่องจากถังดับเพลิงแต่ละประเภทถูกออกแบบมาเพื่อใช้ดับไฟในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน โดยมีปัจจัยหลายประการที่ต้องพิจารณาในการเลือกใช้งาน

1.ประเภทของไฟ (Fire Class): ถังดับเพลิงมีหลายประเภทที่เหมาะสำหรับไฟแต่ละชนิด เช่น

  • ไฟชนิด A: ไฟจากวัสดุทั่วไป เช่น กระดาษ, ไม้, ผ้า
  • ไฟชนิด B: ไฟจากของเหลวไวไฟ เช่น น้ำมัน, แอลกอฮอล์
  • ไฟชนิด C: ไฟจากอุปกรณ์ไฟฟ้า
  • ไฟชนิด D: ไฟจากโลหะที่ไวไฟ
  • ไฟชนิด K: ไฟจากน้ำมันทำอาหารหรือไขมัน

2.ขนาดของถังดับเพลิง:

    ขนาดของถังดับเพลิงที่เลือกใช้ต้องเหมาะสมกับพื้นที่ที่มี ความเสี่ยงในการเกิดไฟไหม้ โดยถังดับเพลิงจะมีขนาดตั้งแต่เล็กจนถึงใหญ่ ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ต้องการป้องกัน

3.การใช้งานและการบำรุงรักษา:

    ถังดับเพลิงต้องได้รับการตรวจสอบและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา ควรเลือกถังที่ใช้งานง่ายและมีความทนทาน

4.การติดตั้ง:

    ถังดับเพลิงควรติดตั้งในตำแหน่งที่เข้าถึงได้ง่ายและมองเห็นชัดเจน โดยควรติดตั้งให้ห่างจากแหล่งอันตราย และทำให้คนในพื้นที่รู้จักตำแหน่งของถังดับเพลิง
การเลือกถังดับเพลิงที่เหมาะสมและการใช้งานอย่างถูกต้องสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุไฟไหม้และเพิ่มความปลอดภัยในสถานที่ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

 

วิเคราะห์ความเสี่ยงในพื้นที่ พิจารณาเชื้อเพลิงหลักในพื้นที่ เช่น ไม้ กระดาษ น้ำมัน หรืออุปกรณ์ไฟฟ้า
    การวิเคราะห์ความเสี่ยงในพื้นที่ที่มีการใช้งานหรือเก็บรักษาสิ่งของต่าง ๆ เช่น ไม้ กระดาษ น้ำมัน หรืออุปกรณ์ไฟฟ้า ถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการป้องกันและลดความเสี่ยงจากอัคคีภัย โดยการพิจารณาความเสี่ยงจากเชื้อเพลิงหลักในพื้นที่นั้น ๆ จะช่วยให้เราสามารถกำหนดมาตรการป้องกันได้อย่างเหมาะสม

  • ไม้ (Wood): ไม้เป็นวัสดุที่มีการติดไฟได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการสะสมฝุ่นไม้หรือเศษไม้ในพื้นที่ การจัดเก็บไม้ควรห่างจากแหล่งความร้อน และควรมีระบบการระบายอากาศที่ดี เพื่อลดโอกาสการเกิดเพลิงไหม
  • กระดาษ (Paper): กระดาษเป็นวัสดุที่ติดไฟได้ง่ายและสามารถแพร่กระจายไฟได้รวดเร็ว การเก็บกระดาษควรอยู่ในที่แห้งและไม่ควรเก็บใกล้แหล่งความร้อนหรือวัสดุที่มีความเสี่ยงต่อการติดไฟ
  • น้ำมัน (Oil): น้ำมันหรือสารที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับน้ำมันเป็นเชื้อเพลิงที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดไฟไหม้ ควรเก็บน้ำมันในภาชนะที่ปิดสนิท และห่างจากแหล่งความร้อน หรือการสัมผัสกับประกายไฟ นอกจากนี้ยังควรมีมาตรการในการดูแลความปลอดภัยเกี่ยวกับการจัดการน้ำมันที่ใช้แล้ว
  • อุปกรณ์ไฟฟ้า (Electrical Equipment): อุปกรณ์ไฟฟ้าอาจเป็นแหล่งที่มาของการเกิดไฟไหม้จากการลัดวงจรหรือการใช้งานที่ผิดวิธี การตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้าให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอเป็นสิ่งสำคัญ การใช้ปลั๊กไฟที่มีคุณภาพและไม่ใช้สายไฟเกินกำลังเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร
    การพิจารณาความเสี่ยงจากเชื้อเพลิงหลักในพื้นที่นั้น ๆ ช่วยให้การจัดทำแผนป้องกันและการตอบสนองต่อเหตุการณ์อัคคีภัยมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้

 

  การพิจารณาความเสี่ยงจากเชื้อเพลิงหลักในพื้นที่นั้น ๆ ช่วยให้การจัดทำแผนป้องกันและการตอบสนองต่อเหตุการณ์อัคคีภัยมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้

  ความสามารถในการดับเพลิง การทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย และการรับประกันความปลอดภัยของผู้ใช้งาน ดังนั้น การเลือกถังดับเพลิงที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจึงเป็นการเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการป้องกันและรักษาความปลอดภัยในทุกสถานการณ์ เลือกถังที่ผ่านมาตรฐาน ถังดับเพลิงควรมีมาตรฐาน เช่น มอก. หรือมาตรฐานสากลอื่นๆ

  การเลือกถังดับเพลิงที่มีคุณภาพและปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในยามฉุกเฉิน ถังดับเพลิงควรมีการรับรองมาตรฐานจากองค์กรที่มีชื่อเสียง เช่น มาตรฐาน มอก. (มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม) หรือมาตรฐานสากลอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจได้ว่า ถังดับเพลิงมีการผลิตตามข้อกำหนดที่เข้มงวด มีความทนทาน และใช้งานได้จริงในกรณีเกิดเพลิงไหม้

  มาตรฐานที่ได้รับการรับรองจะมีการทดสอบ

 

 

คำนึงถึงการใช้งานและการบำรุงรักษา เลือกถังใช้งานง่ายและบำรุงรักษาสะดวก เช่น การเติมสารดับเพลิงหรือการตรวจแรงดัน

    เมื่อเลือกถังดับเพลิง ควรคำนึงถึงความสะดวกในการใช้งานและการบำรุงรักษาเป็นสำคัญ ถังที่มีการออกแบบเพื่อใช้งานง่ายจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงและใช้งานได้อย่างรวดเร็วในกรณีฉุกเฉิน ส่วนการบำรุงรักษาควรมีความสะดวกในการเติมสารดับเพลิงหรือการตรวจสอบแรงดันเพื่อให้มั่นใจว่าถังดับเพลิงพร้อมใช้งานตลอดเวลา โดยถังที่มีระบบตรวจสอบแรงดันที่ชัดเจนจะช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้งานที่ไม่ถูกต้องหรือการหมดอายุของสารดับเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การเลือกถังดับเพลิงที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านการใช้งานและการบำรุงรักษาจะช่วยให้การรับมือกับเหตุการณ์ไฟไหม้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

 

 

วิธีการใช้งานถังดับเพลิง (How to Use a Fire Extinguisher) จำง่ายๆ ด้วยหลักการ P.A.S.S.

  • P (Pull): ดึงสลักนิรภัยออก
  • A (Aim): เล็งหัวฉีดไปที่ฐานของไฟ
  • S (Squeeze): บีบคันโยกเพื่อปล่อยสารดับเพลิง
  • S (Sweep): กวาดหัวฉีดไปมาให้ทั่ว

 

 

การบำรุงรักษาถังดับเพลิง (Fire Extinguisher Maintenance)

  • ตรวจสอบเป็นประจำ: ควรตรวจถังดับเพลิงเดือนละครั้ง ดูแรงดันอยู่ในช่วงปกติ
  • เติมสารดับเพลิง: เติมสารใหม่ตามกำหนดเวลา หรือหลังใช้งาน
  • ตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ: ควรให้ผู้เชี่ยวชาญดูแลถังดับเพลิงประจำปี

 

ข้อควรระวังในการใช้ถังดับเพลิง (Safety Precautions)

  • อย่าดับไฟที่เกินควบคุม ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทันที
  • ตรวจให้แน่ใจว่าถังดับเพลิงพร้อมใช้งาน
  • ฝึกการใช้งานถังดับเพลิงอย่างสม่ำเสมอ

 

มาตรฐานถังดับเพลิง (Fire Extinguisher Standards)

ถังดับเพลิงควรมีมาตรฐาน เช่น มอก. หรือมาตรฐานสากล เพื่อรับประกันคุณภาพ

    การเลือกถังดับเพลิงที่มีมาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าถังดับเพลิงนั้นสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน มาตรฐานที่ใช้ในการผลิตถังดับเพลิง ได้แก่ มาตรฐานจากประเทศไทย (มอก.) หรือมาตรฐานสากล เช่น ISO, UL หรือ EN ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ โดยมาตรฐานเหล่านี้จะช่วยให้มั่นใจว่า ถังดับเพลิงมีความทนทาน และสามารถดับไฟได้อย่างปลอดภัย

  • มาตรฐาน มอก. (มูลนิธิพัฒนามาตรฐาน) จะกำหนดข้อกำหนดที่ชัดเจนเกี่ยวกับวัสดุที่ใช้ในการผลิตถังดับเพลิง ขนาด ความสามารถในการใช้งาน รวมถึงการทดสอบความปลอดภัย เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมั่นในคุณภาพของผลิตภัณฑ์

  • มาตรฐานสากลอย่าง ISO (International Organization for Standardization) และ UL (Underwriters Laboratories) ยังเป็นที่ยอมรับในหลายประเทศ ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจว่า ถังดับเพลิงที่เลือกใช้มีประสิทธิภาพสูงในการดับไฟในสถานการณ์ที่หลากหลาย

ด้วยเหตุนี้ การเลือกใช้ถังดับเพลิงที่มีมาตรฐานที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งที่สำคัญในการป้องกันอันตรายจากไฟไหม้ และช่วยให้มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ที่ใช้มีคุณภาพสูง สามารถช่วยชีวิตและทรัพย์สินได้ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน

 

ถังดับเพลิงสำหรับบ้าน (Fire Extinguishers for Home Use)

    ควรมีถังดับเพลิง ABC Dry Chemical ติดตั้งไว้ในบ้านอย่างน้อย 1 ถัง วางในตำแหน่งมองเห็นง่ายและเข้าถึงสะดวก
    ถังดับเพลิงสำหรับบ้าน (Fire Extinguishers for Home Use) เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยในการป้องกันและดับเพลิงในกรณีฉุกเฉิน เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินจากอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นในบ้าน ถังดับเพลิงที่เหมาะสมสำหรับบ้านควรเป็นประเภท ABC Dry Chemical Fire Extinguisher เนื่องจากสามารถใช้ดับเพลิงได้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นไฟจากของแข็ง (Class A), ของเหลว (Class B) หรือไฟจากอุปกรณ์ไฟฟ้า (Class C)

 

ข้อควรคำนึงในการติดตั้งถังดับเพลิงในบ้าน

  • จำนวนถังดับเพลิง: ควรมีถังดับเพลิง ABC Dry Chemical อย่างน้อย 1 ถังในบ้าน แต่ถ้าบ้านมีขนาดใหญ่หรือหลายชั้น ควรติดตั้งเพิ่มในตำแหน่งที่สะดวกต่อการเข้าถึง
  • ตำแหน่งการติดตั้ง: ถังดับเพลิงควรงวางในตำแหน่ที่มองเห็นได้ง่ายและเข้าถึงสะดวก เช่น ใกล้กับทางออกหรือห้องครัว ซึ่งเป็นจุดที่มีความเสี่ยงสูงสุด
  • การดูแลรักษา: ควรตรวจสอบถังดับเพลิงเป็นประจำให้มีสภาพพร้อมใช้งาน โดยดูว่าเข็มวัดแรงดันอยู่ในระดับที่ปลอดภัยและไม่มีการรั่วไหล

การมีถังดับเพลิงในบ้านเป็นการเตรียมความพร้อมในกรณีฉุกเฉิน และสามารถช่วยควบคุมไฟเบื้องต้นก่อนที่จะลุกลามกลายเป็นเหตุการณ์ใหญ่หลวงได้

 

 

ถังดับเพลิงในรถยนต์ (Fire Extinguishers for Cars)

    ควรมีถังดับเพลิงขนาดเล็กในรถยนต์ เลือกชนิดเหมาะกับไฟที่อาจเกิดในรถ เช่น ไฟฟ้าลัดวงจรหรือไฟน้ำมัน

1. ขนาดของถังดับเพลิง:

    การมีถังดับเพลิงในรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอุบัติเหตุไฟไหม้ในรถยนต์สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เช่น จากไฟฟ้าลัดวงจร หรือการรั่วไหลของน้ำมัน ดังนั้น การเลือกถังดับเพลิงที่มีขนาดเหมาะสมและสามารถใช้งานได้อย่างรวดเร็วจะช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดอันตราย

ถังดับเพลิงในรถยนต์ควรมีขนาดที่พอเหมาะและสามารถเก็บไว้ในที่ว่างของรถได้ง่าย เช่น ถังดับเพลิงขนาด 1-2 กิโลกรัม ซึ่งสามารถใช้ดับไฟเบื้องต้นในกรณีฉุกเฉิน


2. ชนิดของถังดับเพลิง:

    ถังดับเพลิงที่เลือกควรเหมาะสมกับประเภทของไฟที่อาจเกิดขึ้นในรถยนต์ โดยสามารถแบ่งชนิดของถังดับเพลิงได้ดังนี้:

  • ไฟฟ้าลัดวงจร: ถังดับเพลิงชนิด "ประเภท C" เหมาะสำหรับใช้ดับไฟที่เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากไม่เป็นสื่อไฟฟ้าและปลอดภัยต่อการใช้ในกรณีที่ไฟฟ้าเป็นสาเหตุของเพลิงไหม้
  • ไฟจากน้ำมัน: ถังดับเพลิงชนิด "ประเภท B" เหมาะสำหรับการดับไฟที่เกิดจากน้ำมันหรือของเหลวไวไฟอื่นๆ ซึ่งใช้สารดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้งหรือโฟมที่สามารถหยุดการลุกลามของไฟได้


3. การติดตั้ง:

    ควรติดตั้งถังดับเพลิงในที่ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย เช่น ใต้เบาะหน้า หรือที่วางของในรถยนต์ เพื่อให้สามารถใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินได้รวดเร็ว

การมีถังดับเพลิงในรถยนต์ถือเป็นการป้องกันภัยที่สำคัญ การเลือกชนิดและขนาดที่เหมาะสมตามประเภทของไฟที่จะเกิดขึ้นจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถยนต์ได้มากยิ่งขึ้น

 

 

ความแตกต่างของถังดับเพลิงแต่ละชนิด (Comparison of Different Fire Extinguishers)

    ถังดับเพลิงเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการป้องกันและดับไฟในสถานที่ต่างๆ ถังดับเพลิงมีหลายชนิดที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกันตามประเภทของไฟที่อาจเกิดขึ้น ดังนั้นการเลือกใช้ถังดับเพลิงให้เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญในการรักษาความปลอดภัย ต่อไปนี้คือการเปรียบเทียบถังดับเพลิงแต่ละชนิด:

ชนิดสารดับเพลิงประเภทของไฟข้อดีข้อเสีย
น้ำน้ำAราคาถูก ใช้งานง่ายไม่เหมาะกับไฟฟ้าและน้ำมัน
ผงเคมีแห้งผงเคมีA, B, Cดับไฟได้หลายประเภทอาจทำลายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
โฟมโฟมA, Bเหมาะกับน้ำมัน เหมาะกับน้ำมัน
ไม่เหมาะกับไฟฟ้าแรงสูง
CO2CO2B, Cไม่ทิ้งสารตกค้างไม่เหมาะกับไฟเชื้อเพลิงธรรมดา
สารสะอาดสารเคมีA, B, Cปลอดภัยต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

ราคาแพง

 

ถังดับเพลิงชนิดน้ำ (Water Fire Extinguisher)

  • การใช้งาน: ใช้สำหรับดับไฟประเภท A (ไฟที่เกิดจากวัสดุที่มีส่วนประกอบของคาร์บอน เช่น ไม้ ผ้าฝ้าย กระดาษ)
  • ข้อดี: ราคาถูกและใช้ง่าย
  • ข้อเสีย: ไม่สามารถใช้ดับไฟจากไฟฟ้าหรือของเหลวไวไฟได้


ถังดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้ง (Dry Chemical Fire Extinguisher)

  • การใช้งาน: ใช้สำหรับดับไฟประเภท A, B, C (ไฟจากของเหลวไวไฟและไฟฟ้า)
  • ข้อดี: สามารถดับไฟได้หลากหลายประเภท
  • ข้อเสีย: อาจทำให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และพื้นผิวบางประเภท


ถังดับเพลิงชนิดคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 Fire Extinguisher)

  • การใช้งาน: ใช้สำหรับดับไฟประเภท B (ไฟจากของเหลวไวไฟ) และประเภท C (ไฟที่เกิดจากไฟฟ้า)
  • ข้อดี: ไม่ทิ้งคราบหรือสารตกค้าง เหมาะสำหรับการใช้ในพื้นที่ที่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
  • ข้อเสีย: ไม่เหมาะกับไฟประเภท A (วัสดุคาร์บอน) เนื่องจากอาจไม่สามารถดับไฟได้หมด


ถังดับเพลิงชนิดฟอง (Foam Fire Extinguisher)

  • การใช้งาน: ใช้สำหรับดับไฟประเภท A และ B (ไฟจากวัสดุคาร์บอนและของเหลวไวไฟ)
  • ข้อดี: สามารถดับไฟได้ดีทั้งจากของแข็งและของเหลวไวไฟ
  • ข้อเสีย: ไม่เหมาะสำหรับการใช้กับไฟฟ้าหรือไฟประเภท C


ถังดับเพลิงชนิดสารเคมี (Wet Chemical Fire Extinguisher)

  • การใช้งาน: ใช้สำหรับดับไฟประเภท K (ไฟจากน้ำมันหรืออาหาร)
  • ข้อดี: เหมาะสำหรับครัวหรือพื้นที่ที่มีการใช้งานน้ำมันในการปรุงอาหาร
  • ข้อเสีย: ไม่เหมาะกับไฟประเภทอื่น ๆ เช่น ไฟจากไฟฟ้า

 

สรุป
การเลือกถังดับเพลิงที่เหมาะสมกับประเภทของไฟที่อาจเกิดขึ้นเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้การดับไฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุด ควรเลือกใช้ถังดับเพลิงที่ตรงกับประเภทของไฟที่อาจเกิดขึ้นในแต่ละสถานการณ์ 
การบำรุงรักษาตามกำหนด โดยเฉพาะการตรวจสอบทุกปี หรือทุกครั้งที่ใช้ จะช่วยยืดอายุการใช้งานของถังดับเพลิงและทำให้มันพร้อมใช้งานเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

 

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) :

ถังดับเพลิงหมดอายุหรือไม่?
= ถังดับเพลิงไม่มีวันหมดอายุโดยตรง แต่การทำงานของถังดับเพลิงนั้นขึ้นอยู่กับสารดับเพลิงและสภาพของตัวถัง ซึ่งสามารถเสื่อมสภาพตามเวลาได้ ดังนั้น การตรวจสอบและบำรุงรักษาถังดับเพลิงจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์จะพร้อมใช้งานในกรณีฉุกเฉิน ควรตรวจสอบสารดับเพลิงให้มีปริมาณเพียงพอและไม่เสื่อมสภาพ รวมถึงการตรวจสอบสภาพภายนอกของตัวถังเพื่อป้องกันการรั่วไหลหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

 

ควรวางถังดับเพลิงไว้ที่ไหน?

= ควรวางในจุดมองเห็นง่ายและเข้าถึงสะดวก เช่น ใกล้ทางออก ห้องครัว หรือบริเวณเสี่ยงไฟไหม้
    การวางถังดับเพลิงเป็นเรื่องสำคัญที่สามารถช่วยป้องกันความเสียหายจากไฟไหม้ในกรณีฉุกเฉิน ควรพิจารณาวางถังดับเพลิงในตำแหน่งที่มองเห็นได้ง่ายและสามารถเข้าถึงได้สะดวกที่สุด เพื่อให้สามารถใช้งานได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ จุดที่ควรวางถังดับเพลิง ได้แก่:

  • ใกล้ทางออก: ถังดับเพลิงควรวางใกล้ทางออกของอาคาร เพื่อให้สามารถหลีกเลี่ยงอันตรายได้ในกรณีที่ต้องอพยพออกจากอาคาร และยังสะดวกต่อการหยิบใช้เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ในพื้นที่ต่างๆ ของบ้านหรืออาคาร
  • ห้องครัว: เนื่องจากห้องครัวเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากการเกิดไฟไหม้สูง ควรวางถังดับเพลิงไว้ในห้องครัวหรือใกล้เคียง เพื่อสามารถดับไฟในทันทีเมื่อเกิดเหตุ
  • บริเวณเสี่ยงไฟไหม้: ควรวางถังดับเพลิงในบริเวณที่มีความเสี่ยงจากการเกิดไฟไหม้ เช่น ใกล้เครื่องใช้ไฟฟ้าแรงสูง ห้องเครื่องจักร หรือบริเวณที่เก็บวัสดุไวไฟ

นอกจากนี้ ควรตรวจสอบถังดับเพลิงให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เช่น การตรวจสอบระดับน้ำยาในถัง และทำความสะอาดให้ถังดับเพลิงไม่มีสิ่งอุดตัน เพื่อให้สามารถใช้งานได้ในทุกสถานการณ์ที่เกิดเหตุไฟไหม้.

ใช้ถังดับเพลิงผิดประเภทได้หรือไม่? การใช้ถังดับเพลิงผิดประเภทเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เนื่องจากอาจทำให้ไฟลุกลามมากขึ้นหรือเกิดอันตรายเพิ่มเติม เช่น การเลือกใช้ถังที่ไม่เหมาะกับไฟน้ำมันหรือไฟฟ้าแรงสูงอาจทำให้สถานการณ์แย่ลง



ใช้ถังดับเพลิงผิดประเภทได้หรือไม่?

= การใช้ถังดับเพลิงผิดประเภทเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำโดยเด็ดขาด เนื่องจากอาจทำให้สถานการณ์ไฟไหม้รุนแรงขึ้น หรือเกิดอันตรายเพิ่มเติม ซึ่งถังดับเพลิงมีหลายประเภทที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการดับเพลิงในสถานการณ์ต่างๆ หากเลือกใช้ถังดับเพลิงที่ไม่เหมาะสมกับประเภทของไฟที่เกิดขึ้น อาจทำให้ไฟลุกลามหรือทำให้เกิดอันตรายที่ไม่คาดคิดได้ ตัวอย่างเช่น การใช้ถังดับเพลิงชนิดน้ำในการดับไฟจากน้ำมัน หรือการใช้ถังดับเพลิงชนิดผงเคมีเพื่อดับไฟจากไฟฟ้าแรงสูง อาจทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้นแทนที่จะช่วยให้ไฟดับลงได้ จึงควรเลือกใช้ถังดับเพลิงให้เหมาะสมกับประเภทของไฟที่เกิดขึ้นเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

 

 

ติดต่อบริษัท ชาเก้ (ประเทศไทย) จำกัด

    บริษัท ชาเก้ (ประเทศไทย) จำกัด ยินดีให้บริการและพร้อมช่วยเหลือท่านในการติดต่อธุรกิจหรือสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการของเราอยู่เสมอ! ทีมงานของเราพร้อมให้คำปรึกษาและตอบทุกคำถามของท่าน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ดีและยาวนาน

เวลาให้บริการ:
เปิดทำการ: วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 08:00 - 17:00 น.

ปิดทำการ: วันเสาร์, อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ที่อยู่: 84/8-9 หมู่ 6 ตำบลทับมา อำเภอเมือง จังหวัดระยอง 21000

ช่องทางการติดต่อ:
โทรศัพท์: 092-384-7788 / 080-419-8855
Line ID: @674kgsgi

ติดต่อฝ่ายต่างๆ:
ฝ่ายขาย/จัดซื้อในประเทศ: info.schake@gmail.com
ฝ่ายต่างประเทศ/นำเข้า-ส่งออก: sidapa.schake@gmail.com
หากท่านต้องการใบเสนอราคา กรุณาคลิกที่นี่ [ลิงก์ใบเสนอราคา]

เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมงานกับท่าน!

Powered by MakeWebEasy.com