71 จำนวนผู้เข้าชม |
1. ประเมินประเภทของสารเคมีที่ต้องเผชิญ
เพื่อเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสม จำเป็นต้องทราบว่าสารเคมีที่ต้องเผชิญเป็นประเภทใด เช่น
● สารเคมีที่เป็นกรด-ด่าง (Acid & Base Chemicals) เช่น กรดซัลฟิวริก (Sulfuric Acid), โซดาไฟ (Caustic Soda) ซึ่งมีฤทธิ์กัดกร่อนสูง
● สารเคมีอินทรีย์ (Organic Chemicals) เช่น ตัวทำละลาย (Solvents) แอลกอฮอล์ (Alcohol) ที่อาจซึมผ่านวัสดุได้
● ก๊าซและไอระเหยอันตราย (Toxic Gases & Vapors) เช่น แอมโมเนีย (Ammonia), คาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon Monoxide) ซึ่งอาจเข้าสู่ร่างกายผ่านการสูดดม
● สารเคมีไวไฟ (Flammable Chemicals) เช่น ไซลีน (Xylene), โทลูอีน (Toluene) ที่เสี่ยงต่อการติดไฟ
การเข้าใจคุณสมบัติของสารเคมีเหล่านี้ จะช่วยให้เลือก PPE (Personal Protective Equipment) ได้ตรงตามลักษณะของความเสี่ยง
2. เลือกอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสมกับอวัยวะที่ต้องการป้องกัน
การป้องกันอันตรายจากสารเคมีต้องพิจารณาว่าอวัยวะใดเสี่ยงได้รับอันตรายมากที่สุด และเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสม เช่น
2.1 อุปกรณ์ป้องกันระบบทางเดินหายใจ (Respiratory Protection)
ใช้เมื่อต้องเผชิญกับสารเคมีในรูปแบบก๊าซ ไอระเหย หรือฝุ่นพิษ
● หน้ากากกรองสารเคมี (Chemical Respirator) ควรเลือกใช้ตามประเภทของสารเคมี เช่น
○ หน้ากากกรองไอระเหยสารอินทรีย์ (Organic Vapor Cartridge) สำหรับตัวทำละลาย
○ หน้ากากกรองไอกรด-ด่าง (Acid Gas Cartridge) สำหรับกรดกำมะถัน
● หน้ากากแบบมีระบบจ่ายอากาศ (Supplied-Air Respirator, SAR) เหมาะสำหรับพื้นที่อับอากาศ หรือที่มีออกซิเจนต่ำ
2.2 อุปกรณ์ป้องกันดวงตาและใบหน้า (Eye & Face Protection)
● แว่นตานิรภัย (Safety Goggles) สำหรับป้องกันละอองสารเคมี
● กระบังหน้า (Face Shield) เหมาะกับงานที่อาจมีการกระเซ็นของสารเคมีเข้มข้น
2.3 อุปกรณ์ป้องกันมือ (Hand Protection)
● ถุงมือป้องกันสารเคมี (Chemical-Resistant Gloves) เช่น
○ ถุงมือไนไตร (Nitrile Gloves) ป้องกันสารตัวทำละลาย
○ ถุงมือพีวีซี (PVC Gloves) ป้องกันสารเคมีอุตสาหกรรม
○ ถุงมือบิวทิล (Butyl Gloves) ทนสารกัดกร่อนสูง
2.4 อุปกรณ์ป้องกันร่างกาย (Body Protection)
● ชุดกันสารเคมี (Chemical Protective Suit) ต้องเลือกตามระดับการป้องกัน เช่น
○ Level A: ป้องกันได้สูงสุด รวมถึงระบบหายใจ
○ Level B: ป้องกันของเหลว แต่ระบบหายใจต้องใช้ร่วมกับหน้ากาก
○ Level C: ป้องกันของเหลวทั่วไป ใช้หน้ากากกรองอากาศ
○ Level D: ป้องกันพื้นฐานจากสารเคมีที่ไม่รุนแรง
2.5 อุปกรณ์ป้องกันเท้า (Foot Protection)
● รองเท้าบู๊ตกันสารเคมี (Chemical-Resistant Boots) ป้องกันสารกัดกร่อน เช่น PVC, Neoprene
3. ตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของอุปกรณ์
การเลือกอุปกรณ์ป้องกันสารเคมีควรตรวจสอบว่าเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย เช่น
● EN 374 – มาตรฐานถุงมือป้องกันสารเคมี
● EN 166 – มาตรฐานแว่นตานิรภัย
● EN 943 – มาตรฐานชุดป้องกันสารเคมี
● NIOSH (National Institute for Occupational Safety and Health) – มาตรฐานหน้ากากกรองอากาศ
4. ความสะดวกสบายและความเหมาะสมในการใช้งาน
แม้อุปกรณ์บางชนิดอาจให้การป้องกันสูงสุด แต่ถ้าสวมใส่ไม่สะดวก อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน ควรพิจารณาเรื่องเหล่านี้ด้วย
● ขนาดและการปรับระดับ (Size & Adjustability)
● ความสามารถในการระบายอากาศ (Breathability)
● น้ำหนักของอุปกรณ์ (Weight of Equipment)
5. การบำรุงรักษาและอายุการใช้งาน
การเลือกอุปกรณ์ควรคำนึงถึงความสามารถในการดูแลรักษา เช่น
● ถุงมือบางชนิดใช้ซ้ำได้ แต่ต้องล้างทำความสะอาดหลังใช้
● หน้ากากกรองอากาศต้องเปลี่ยนไส้กรองตามรอบระยะเวลาที่กำหนด
● ชุดกันสารเคมีควรเก็บในที่แห้งและห่างจากแสงแดด
6. การฝึกอบรมและการใช้งานที่ถูกต้อง
แม้อุปกรณ์จะมีประสิทธิภาพสูง แต่ถ้าผู้ใช้งานไม่รู้วิธีการใช้ที่ถูกต้อง ก็อาจลดประสิทธิภาพการป้องกันลงได้ ควรมีการฝึกอบรมเกี่ยวกับ
● วิธีการสวมใส่ที่ถูกต้อง
● การตรวจสอบความสมบูรณ์ของอุปกรณ์ก่อนใช้งาน
● วิธีการถอดอุปกรณ์อย่างปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อน
การเลือก อุปกรณ์ป้องกันภัยสารเคมีสำหรับงานเสี่ยง ต้องอาศัยความเข้าใจเกี่ยวกับสารเคมีที่ต้องเผชิญ รวมถึงการเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับอวัยวะที่ต้องป้องกัน ควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย หากเลือกได้อย่างถูกต้องและใช้งานอย่างเหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงจากสารเคมีได้อย่างมีประสิทธิภาพ